**สาระดีๆ กับ Cin Guitars**
ในหมู่ผู้เล่นกีตาร์ หลายๆ ท่านในเมืองไทยอาจจะยังมีความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องกับไม้ Mahogany หรือ กีตาร์ที่เลือกใช้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะมีราคาที่ถูกลงกว่าไม้ชนิดอื่นๆ จึงทำให้ Mahogany ถูกเข้าใจว่าเป็นไม้เกรดรอง หรือ กีตาร์รุ่นรองลงมา
ที่จริงแล้ว ด้วยปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอายุการโตของไม้ที่เก็บเกี่ยวได้ช้าเร็วต่างกัน พื้นที่การปลูกที่มีมากกว่า ความหายากของไม้ชนิดนั้นๆ หรือแม้แต่ลวดลาย ที่พิเศษขึ้นในไม้ชนิดนั้นๆ Mahogany จัดเป็นไม้ชนิดที่หาได้ไม่ยากนักในการผลิตกีตาร์หรืออุตสาหกรรมต่างๆ เมื่อเที่ยบกับไม้ชนิดอื่นๆ ซึ่งทำให้ต้นทุนราคาของตัวไม้นั้นถูกกว่า ดังนั้นเมื่อเลือกใช้ Mahogany เป็นส่วนประกอบแล้ว ต้นทุนที่ถูกว่า กีตาร์ย่อมสามารถตั้งราคาได้ต่ำกว่ารุ่นที่เลือกใช้ไม้ชนิดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ตระกูล Rosewood ต่างๆ ตระกูล Maple ที่มีลวดลายพิเศษต่างๆ กันออกไป หรือแม้แต่ Koa หรือ Walnut และอีกหลายๆ ชนิด
และที่สำคัญโทนเสียงของ Mahogany นั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าไม้ชนิดอื่นๆ เลย Website ของ Martin Guitars มีการพูดถึงเกี่ยวกับ Tone wood ซึ่งได้กล่าวถึง Mahogany ไว้ว่า
"Mahogany, exhibits a powerful midrange, great punch and bright and airy trebles."
ซึ่งกล่าวว่า มาฮอคกานี นั้น ให้เสียงย่านกลางที่ทรงพลัง มีพันช์ หรือ attack ที่ยอดเยี่ยม ตอบสนองการดีดได้ดี นอกจากนั้น ยังให้ความใส ( Bright ) และ เสียงย่านแหลมที่ พุ่งออกไปอย่างคมชัด และคุณสมบัตินี้เอง กีตาร์ใน Studio ส่วนมากจะเลือกใช้กีตาร์ที่ Body มีส่วนประกอบของ Mahogany เพราะทำให้ทำงานอัดเสียงได้ง่าย จากความคมชัดเสียงย่านกลางที่เหลือเฟือ และตอบสนองไดนามิคการดีดได้ดี และแน่นอนมันดีกับการเล่นสดด้วยเหมือนกัน
ดังนั้นแล้ว เมื่อต้องการเลือกกีตาร์ 1 ตัว ลองสำรวจความต้องการและโจทย์ของตนเองก่อนว่า ต้องการกีตาร์ตัวใหม่ที่มีคุณสมบัติแบบไหน ตอบสนองการเล่นในรูปแบบไหน อย่างเพิ่งมองข้ามกีตาร์รุ่นไหนก็ตาม ที่ได้ยิน เค้าเล่ามา มาตัดสิน ทดสอบด้วยตัวเองเสียก่อน กีตาร์แต่ละตัวแน่นอนที่สุดให้การตอบสนองไม่เหมือนกัน เลือกกีตาร์ให้เหมาะกับตัวเอง และเชื่อในเสียงที่ตัวเองนั้นได้ยิน
